ทริคสั่งของจากจีน

อัตราแลกเปลี่ยนหยวน-บาท มีผลยังไงกับต้นทุน

อัตราแลกเปลี่ยนหยวน-บาท คืออะไร?

อัตราแลกเปลี่ยนหยวน-บาทหมายถึง “ราคาที่ไทยสามารถซื้อหยวน (CNY) ได้กี่บาท” ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการนำเข้าสินค้าจากจีนโดยตรง เพราะการเปลี่ยนแปลงค่าเงินส่งผลต่อ ต้นทุนรวมในการนำเข้า


สถานการณ์ล่าสุดของอัตราแลกเปลี่ยน CNY/THB

  • ข้อมูลล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2024 ระบุว่าอยู่ในช่วง 5.05–5.15 บาทต่อ 1 หยวน 

  • ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนตลอดปีในช่วง 5.00–5.20 บาท 

  • ปัจจัยหลักที่มีผลต่ออัตรานี้ประกอบด้วย:

    1. นโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน

    2. สถานการณ์เศรษฐกิจโลก

    3. ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีน–ไทย 


อัตราแลกเปลี่ยนหยวน-บาท มีผลยังไงกับต้นทุน?

1. ส่งผลโดยตรงต่อราคาสินค้า

สมมติคุณสั่งสินค้าจากจีนมูลค่า 1,000 CNY:

  • หากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 5.05 บาท → ค่าเงิน = 5,050 บาท

  • แต่หากเพิ่มเป็น 5.15 บาท → ค่าเงิน = 5,150 บาท
    ต้นทุนเพิ่มขึ้นทันที 100 บาท ก่อนรวมค่าขนส่ง-ภาษี

2. เพิ่มค่าขนส่งและภาษี

  • ค่าขนส่ง + ภาษี ยังต้องคำนวณจาก “ราคาเงินบาทหลังแลกเข้ามา”

  • ยิ่งอัตราสูง ยิ่งมีต้นทุนส่วนนี้ตามไปด้วย 

3. ลดกำไรหรือบีบขึ้นราคา

  • หากไม่ปรับราคา หรือแบกต้นทุนเพิ่ม → กำไรลดลง

  • หากปรับราคา → อาจส่งผลต่อยอดขายและความสามารถแข่งขัน


วิธีรับมืออัตราที่ผันผวน

  1. คำนวณต้นทุนโดยละเอียด

    • สูตร: ต้นทุน (บาท) = ราคาสินค้า (หยวน) × อัตราแลกเปลี่ยน + ค่าขนส่ง + ภาษีนำเข้า 

    • ตัวอย่าง:
      ราคาสินค้า 1,000 CNY, อัตรา 5.10 บาท/CNY, ค่าขนส่ง 500 บาท, ภาษี 300 บาท
      ต้นทุนรวม = 5,900 บาท

  2. ใช้เครื่องมือ hedge / forward contract

    • หากนำเข้าสินค้าเป็นประจำ ควรสำรองด้วยสัญญาล่วงหน้าเพื่อควบคุมต้นทุน

  3. เลือกช่วงเวลาที่อัตราเหมาะสม

    • ติดตามข่าวเศรษฐกิจจีนหรือไทยสม่ำเสมอ และเลือกสั่งในช่วงอัตรานิ่ง/อ่อน

  4. ชิปปิ้งหรือเอเย่นต์ช่วยบริหาร

    • เช่น Shipify มีบริการคำนวณต้นทุน พร้อมอัปเดตอัตราแลกเปลี่ยนและค่าขนส่งแบบ door-to-door 


 

 เครื่องมือและบริการเสริมจาก Shipify

  1. คำนวณค่าขนส่ง-ภาษีนำเข้า
    บริการช่วยประเมิน CIF, VAT และอากรต่างๆ 

  2. สั่งของจากจีนผ่าน 1688, Taobao, Tmall
    แพลตฟอร์มครบวงจร ติดตามสถานะพัสดุ และออกใบกำกับภาษีได้ 

  3. บริการเช็คสินค้า (Third‑party inspection)
    เพิ่มความมั่นใจว่าสินค้าตรงตามสเปค ลดความเสี่ยงคืนของจากจีน 

  4. เปรียบเทียบว่าใช้ Shipify เหมาะกับใคร
    อ่านเพิ่มเติม:


เหตุผลที่ต้องควบคุมต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยน

  • ป้องกันต้นทุนฉับพลัน: อัตราอ่อน = ต้นทุนเพิ่มทันที

  • บริหารกำไรปลอดภัย: รู้ฮ้างต้นทุนล่วงหน้า ช่วยตั้งราคาขายอย่างมั่นใจ

  • วางแผนการเงินล่วงหน้า: งบประมาณและสต็อกคงที่ หากรู้ค่าใช้จ่ายแน่นอน


สรุป

การเปลี่ยนแปลงของ อัตราแลกเปลี่ยนหยวน-บาท ส่งผลต่อ ต้นทุนการนำเข้า ทั้งราคาแบบ CNY, ค่าขนส่ง และภาษี เมื่อคำนวณอย่างรอบคอบและเตรียมกลยุทธ์รับมือ (เช่น ใช้ forward contract หรือบริการจากชิปปิ้งอย่าง Shipify) จะช่วยให้คุณบริหารต้นทุนได้แม่นยำมากขึ้น

บทความและข่าวสารที่น่าสนใจ