ทริคสั่งของจากจีน

6 ความท้าทายแห่งยุคดิจิทัล...ที่ผู้ประกอบการไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้

โลกธุรกิจวันนี้ไม่เคยรอให้ใครได้ตั้งตัว การแข่งขันในยุค New Normal หลังโควิดทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ แม้คุณจะยังไม่พร้อม โลกก็ไม่เคยหยุดหมุน

หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือ "Entrepreneurial Marketing" ของ Philip Kotler ก็พบประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับความท้าทายที่นักธุรกิจยุคนี้ต้องเผชิญ จึงอยากนำมาแบ่งปันให้พวกเราได้เตรียมตัวรับมือกับ 6 ความท้าทายสำคัญที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการทำธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง

1. More Digitized: การดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น

บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างทุ่มงบประมาณมหาศาลลงทุนด้านเทคโนโลยีและการจัดการข้อมูลแบบก้าวกระโดด ใครที่ยังคงยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิมๆ ไม่ปรับตัวใช้ AI และเทคโนโลยีล้ำสมัย จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็วและไม่ทันได้ตั้งตัว

2. More Unforgiving Players: คู่แข่งเกิดใหม่จากทั่วทุกมุมโลก

โมเดลธุรกิจใหม่ๆ ผุดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพที่มีความ Lean และปรับตัวคล่องตัวกว่าองค์กรขนาดใหญ่ หรือแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่แยกธุรกิจออกมาเป็นหน่วยย่อย เพื่อรุกตลาดแข่งกับผู้เล่นรายเล็ก สนามแข่งขันจึงแออัดและดุเดือดกว่าที่เคย

3. Level Playing Field: ใครๆ ก็เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น

พลังของโลกออนไลน์ได้ลดต้นทุนการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมหาศาล ทั้งผ่าน Social Media และแพลตฟอร์ม E-commerce ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย วันนี้หากคุณมีสินค้าหรือบริการที่โดดเด่น คุณสามารถเริ่มต้นทำตลาดได้ทันที โดยไม่ต้องมีทุนมหาศาล ข้ออ้างเรื่องขาดเงินทุนจึงหมดความหมาย เพราะถ้าคุณไม่ทำ คู่แข่งของคุณก็พร้อมที่จะทำ

4. Harder to Differentiate: สร้างความแตกต่างได้ยากเพราะถูกลอกเลียนได้อย่างรวดเร็ว

ในยุคที่นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน และ AI สามารถช่วยสร้างสรรค์ได้อย่างไม่หยุดยั้ง การอยู่นิ่งเฉยจึงเท่ากับถอยหลัง การสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนกลายเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจจำเป็นต้องเร่งสร้างแบรนด์และพัฒนาสินค้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน

5. Faster Pace: ชัยชนะถาวรอาจเป็นเพียงภาพลวงตา

อย่างที่เคยกล่าวไว้ในบทความเรื่องจีน โลกธุรกิจปัจจุบันเป็นของผู้เล่นที่มองการณ์ไกลแบบ Infinite Game หรือเกมที่ไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ "ระยะเวลาความได้เปรียบ" ของสินค้าและบริการสั้นลงอย่างมาก ผู้ชนะวันนี้อาจกลายเป็นผู้แพ้ในวันพรุ่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว

6. Stronger Interdependency: พันธมิตรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ

การร่วมมือกันไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นทางรอดของธุรกิจในยุคนี้ ธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งการตลาด คลังสินค้า การผลิต จะได้เปรียบอย่างมาก จีนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องนี้:

  • มี Fulfillment Center กระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง ช่วยให้บริหารต้นทุนและความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้าง Ecosystem ที่ครบวงจร เชื่อมโยงตั้งแต่ผู้ผลิต คลังสินค้า ระบบขนส่ง ไปจนถึงแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์

5 ปัจจัยที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

เบื้องหลังการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน มาจาก 5 ปัจจัยหลักที่กำลังเปลี่ยนโฉมโลกธุรกิจพร้อมกัน:

ปัจจัย ผลกระทบ
Technology ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI, IoT, Blockchain กำลังปฏิวัติแทบทุกอุตสาหกรรม
Political and Legal กฎระเบียบใหม่ การค้าโลก การเก็บภาษีดิจิทัล หรือ FTA กำลังเปลี่ยนกฎกติกาทางการค้าแบบพลิกฝ่ามือ
Economy ความผันผวนทางเศรษฐกิจ การฟื้นตัวจากวิกฤติ หรือภาวะถดถอยสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน
Social and Cultural เทรนด์ผู้บริโภคใหม่ เช่น Green Economy, Well-being, และ Gen Z ที่มีพฤติกรรมแตกต่างจากคนรุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิง
Market โครงสร้างตลาดเปลี่ยนแปลง เช่น การเติบโตแบบไร้พรมแดนผ่าน E-commerce และการแข่งขันข้ามทวีป

Infinite Game กับ New Normal: กลยุทธ์การอยู่รอดในสนามที่ไม่มีเส้นชัย

ในโลกที่กฎการแข่งขันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้เล่นที่ยังคงมองเกมแบบ Finite (หวังจะชนะแล้วหยุด) จะไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป

ผู้ประกอบการที่จะอยู่รอดและเติบโตได้ในยุคนี้ คือคนที่ปรับเปลี่ยนกรอบความคิดมาเล่น Infinite Game โดย:

  • ปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลง
  • วางกลยุทธ์และคิดในระยะยาว
  • ใช้ข้อมูลเป็นเข็มทิศนำทาง
  • พัฒนา Ecosystem ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
  • มองคู่แข่งเป็นแรงกระตุ้นให้พัฒนา ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องกำจัด

"เกมที่แท้จริงไม่ใช่การแข่งเพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่คือการแข่งเพื่อไม่ให้ออกจากสนาม"

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับต่อ Infinite Game ของผมต่อได้ที่นี่ >>

บทความและข่าวสารที่น่าสนใจ