จากแบรนด์ที่ "ขายของ" สู่แบรนด์ที่ "คนเชื่อ – เลือก – และแนะนำต่อ"
สร้างธุรกิจที่ลูกค้าพร้อมจ่ายแพงกว่า โดยไม่ต้องลดราคาแม้แต่บาทเดียว
"คนที่ซื้อของถูก...หวังว่ามันจะไม่พัง
แต่คนที่ซื้อของแพง...มั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้ผิดหวัง"
ในยุคที่ใครๆ ก็ขายของได้ เทคโนโลยีไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป แต่ทำไมแบรนด์บางเจ้า "แพงกว่า" แต่คนกลับยินดีจ่าย? ทำไมแบรนด์บางเจ้า "แทบไม่ต้องยิงแอด" แต่ลูกค้ากลับแนะนำต่อกันเอง?
พวกเขาทำได้อย่างไร? มาดูกลยุทธ์ที่จะเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยไม่ต้องเล่นเกมลดราคา
เราไม่ได้บอกต่อแบรนด์ที่ราคาถูกที่สุด แต่เราบอกต่อแบรนด์ที่ทำให้เรารู้สึก "เลือกได้ถูก"
ผมเพิ่งถอย Apple AirPods Pro มาในราคาเกือบ 9,000 บาท แพงกว่าหูฟัง Bluetooth ทั่วไปมากกว่า 10 เท่า! ที่น่าตกใจคือ...ผมก็ยังซื้อ และพอได้ใช้ผมเข้าใจทันทีว่าทำไม ถึงขนาดเอาไปให้เพื่อนได้ลองและกลายเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Apple โดยไม่รู้ตัว
LEGO ไม่ใช่แค่ของเล่น — มันคือ "ประสบการณ์ร่วมของครอบครัว" และความมั่นใจของพ่อแม่ว่า "ลูกฉันต้องได้เล่นของเล่นระดับพรีเมียม"
คำถามสำคัญ: "สินค้าของคุณวันนี้ ลูกค้าได้อะไรเพิ่มขึ้นจากสิ่งที่เขาเห็น?" ถ้าตอบไม่ได้ เตรียมเข้าสู่สงครามลด แลก แจก แถม ได้เลย
แบรนด์เล็กๆ อย่าง "หมูปิ้งคุณแม่" ไม่มีโลโก้เท่ ไม่มีแพ็คเกจหรู แต่คนต่อคิวทุกเช้า เพราะรู้ว่า "จะได้ของสด สะอาด และเจ้าของยิ้มแย้มเป็นกันเอง"
แบรนด์แบบนี้ไม่ได้สร้างด้วยงบโฆษณา แต่สร้างจาก "ความ Real" ความจริงใจ และการเข้าถึงลูกค้าแบบตรงไปตรงมา
Storytelling = การใส่ความรู้สึกให้กับของธรรมดา
แต่ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องเก่งเท่านั้น ต้อง:
มิฉะนั้น คุณก็จะเป็นเพียง "คนขี้โม้ที่แค่พูดเก่งแต่ทำไม่ได้จริง"
ราคาไม่ใช่สิ่งที่บอก "แพง" หรือ "ถูก" แต่บอก "ตำแหน่งของแบรนด์ในใจลูกค้า"
คนจะไม่บอกต่อถ้าไม่มี "แรงจูงใจ" และ "เหตุผลให้พูดถึง"
การทำให้ลูกค้าแชร์ พูดถึง หรือรีวิว ไม่ได้เกิดจากของมันดีเฉยๆ แต่มาจากการ "ออกแบบประสบการณ์" ให้ลูกค้ารู้สึกอยากเล่า
แพ็คเกจจิ้งที่ถ่ายรูปแล้วแชร์ได้เลย
แถมของเล็กๆ พร้อม Personalized Note
รีวิวแล้วได้สิทธิพิเศษทันที (โดยไม่ต้องขอรีวิวโต้งๆ)
ปัจจัยที่แบรนด์ชั้นนำใช้ | ทำไมคู่แข่งลอกเลียนได้ยาก |
---|---|
ความเชื่อถือ (Trust) | ต้องใช้เวลาสร้าง และพิสูจน์จากการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าจริงๆ |
การออกแบบประสบการณ์ (UX) | ไม่ใช่แค่ลอกฟีเจอร์หรือ UI แต่ต้องเข้าใจผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง |
Storytelling (การเล่าเรื่อง) | เรื่องราวแต่ละแบรนด์ไม่เหมือนกัน สร้างภาพจำและความรู้สึกร่วมที่เป็นเอกลักษณ์ |
ความสม่ำเสมอ | ต้องใช้เวลาพิสูจน์และรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง |
ลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของทุกคนดูนะครับ^^